• Home
  • Blog
  • เตือนภัย วิธีแยกแยะข้อความมิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบ SMS
เตือนภัย วิธีแยกแยะข้อความ SMS ที่มาจากมิจฉาชีพ

ข้อความ SMS

ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน ข้อความ SMS เป็นหนึ่งในช่องทางการสื่อสารที่ได้รับความนิยม แต่ความสะดวกนี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงจากมิจฉาชีพที่ใช้ข้อความ SMS เพื่อหลอกลวงและโจมตีผู้ใช้ ดังนั้น การรู้จักวิธีแยกแยะข้อความ SMS ที่มาจากมิจฉาชีพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยปกป้องข้อมูลและทรัพย์สินของเรา 

สารบัญเนื้อหา

ข้อความมิจฉาชีพเป็นอย่างไร

ข้อความมิจฉาชีพ คือ ข้อความที่ถูกส่งโดยมิจฉาชีพเพื่อหลอกลวงหรือขโมยข้อมูลจากผู้รับ ข้อความเหล่านี้มักมีวัตถุประสงค์เพื่อหลอกให้เหยื่อดำเนินการบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อมิจฉาชีพ เช่น

  1. ขอข้อมูลส่วนบุคคล ข้อความอาจขอข้อมูลสำคัญ เช่น หมายเลขบัตรเครดิต, รหัสผ่าน, หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ โดยอ้างว่าเป็นองค์กรที่เชื่อถือได้ เช่น ธนาคารหรือบริษัทโทรคมนาคม
  2. ลิงก์ที่อันตราย ข้อความมักจะมีลิงก์ที่นำไปสู่เว็บไซต์ปลอมเพื่อขโมยข้อมูลหรือติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายลงในอุปกรณ์ของผู้รับ
  3. ข้อเสนอหรือรางวัลปลอม ข้อความอาจเสนอรางวัลหรือข้อเสนอพิเศษที่ดูเหมือนดีเกินจริงเพื่อให้ผู้รับคลิกลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคล
  4. การข่มขู่หรือสร้างความกลัว ข้อความอาจใช้วิธีการข่มขู่หรือสร้างความกลัว เช่น อ้างว่าผู้รับมีหนี้สินหรือปัญหาทางกฎหมายเพื่อให้ดำเนินการบางอย่างโดยรีบเร่ง
  5. การหลอกลวงทางการเงิน ข้อความอาจเชิญชวนให้ลงทุนในโครงการที่ไม่จริงหรือเสนอให้โอนเงินไปยังบัญชีที่ไม่เป็นจริง

ต่อไปนี้คือวิธีในการแยกแยะข้อความ SMS ที่มาจากมิจฉาชีพ

ตรวจสอบผู้ส่ง

ข้อความจากมิจฉาชีพมักจะมาจากหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่รู้จักหรือหมายเลขที่ไม่ตรงกับแหล่งที่มา เช่น ธนาคารหรือองค์กรที่เรามีการติดต่อด้วย หากข้อความมาจากหมายเลขที่ไม่คุ้นเคยหรือเป็นหมายเลขสั้นที่ไม่เกี่ยวข้อง ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

ระวังลิงก์หรือ URL

ข้อความ SMS ที่มาจากมิจฉาชีพมักจะมีลิงก์หรือ URL ที่เชิญชวนให้คลิก เช่น “คลิกที่นี่เพื่อรับรางวัล” หรือ “เข้าสู่ระบบเพื่อยืนยันข้อมูลของคุณ” อย่าคลิกที่ลิงก์หรือ URL เหล่านี้หากไม่แน่ใจแหล่งที่มาหรือความถูกต้อง

ตรวจสอบเนื้อหาข้อความ

ข้อความที่มาจากมิจฉาชีพมักจะมีเนื้อหาที่ต้องการให้คุณดำเนินการในทันที เช่น การให้ข้อมูลส่วนบุคคล, การกดลิงก์, หรือการโอนเงิน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาของข้อความสอดคล้องกับการติดต่อจากแหล่งที่คุณรู้จัก

เช็คการสะกดคำและไวยากรณ์

ข้อความ SMS ที่มาจากมิจฉาชีพมักจะมีการสะกดคำผิดหรือไวยากรณ์ที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากมิจฉาชีพมักจะใช้ข้อความที่เขียนอย่างเร่งรีบหรือแปลจากภาษาอื่น

ไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล

ธนาคารหรือองค์กรที่มีชื่อเสียงจะไม่ขอข้อมูลส่วนบุคคลเช่น หมายเลขบัตรเครดิต, รหัสผ่าน หรือ OTP ผ่านทางข้อความ SMS ดังนั้นหากมีข้อความที่ขอข้อมูลประเภทนี้ ให้สงสัยและตรวจสอบกับแหล่งที่มาโดยตรง

ใช้แอปพลิเคชันป้องกัน

การติดตั้งแอปพลิเคชันป้องกันสแปมหรือมิจฉาชีพในโทรศัพท์มือถือสามารถช่วยกรองข้อความที่น่าสงสัยและแจ้งเตือนเมื่อมีข้อความจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

สรุป

ในยุคนี้ ข้อความ SMS มักถูกใช้โดยมิจฉาชีพเพื่อหลอกลวงหรือขโมยข้อมูลของผู้รับ การรู้จักแยกแยะข้อความเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อปกป้องข้อมูลและทรัพย์สินของคุณ วิธีการตรวจสอบข้อความที่น่าสงสัยรวมถึงการตรวจสอบหมายเลขผู้ส่ง หากเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคยหรือไม่ตรงกับแหล่งที่เชื่อถือได้, ระวังลิงก์และ URL ที่อาจนำไปสู่เว็บไซต์ปลอม, ตรวจสอบเนื้อหาเพื่อดูว่ามีการขอข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่, และเช็คการสะกดคำหรือไวยากรณ์ที่ผิดพลาดที่อาจบ่งบอกถึงข้อความที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ไม่ควรให้ข้อมูลส่วนบุคคลผ่าน SMS และควรใช้แอปพลิเคชันป้องกันสแปมหรือมิจฉาชีพเพื่อช่วยกรองข้อความที่น่าสงสัย